แสวงหาวัดที่จะบวช
เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะบวชในช่วงเข้าพรรษา (กรกฎาคม) ปีนี้ ภารกิจสำคัญที่ต้องเลือกก็คือการติดต่อ แสวงหาสถานที่ วัด พระอุปัชฌาย์ เนื่องจากข้าพเจ้าตัดสินใจตั้งแต่ต้นปีว่าจะบวช จึงพอจะมีเวลาในการติดต่อวัดต่าง ๆ พอสมควร โดยข้าพเจ้าตั้งใจไว้ว่าจะบวชในวัดที่เน้นการปฏิบัติ เป็นประเภทวัดป่า แต่ก็ไม่อยากให้อยู่ไกลบ้าน หรือแม่เดินทางไปเยี่ยมลำบากเกินไปนัก
วัดป่าในประเทศไทย
วัดป่าในประเทศไทย จะแบ่งเป็นกลุ่มหลัก ๆ ได้ 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มวัดป่าที่สืบทอดมาจากแบบแผนของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต โดยมากนักเป็นวัดในภาคอีสาน เช่นวัดป่าบ้านตาด ของหลวงตามหาบัวฯ วัดดอยธรรมเจดีย์ (หลวงปู่แบน) วัดป่าด่านวิเวก (หลวงปู่ทุย) วัดภูสังโฆ (หลวงพ่อวันชัย) ฯลฯ ซึ่งจะเป็นวัดที่ค่อนข้างเคร่งครัด ไม่เน้นการก่อสร้าง เน้นการเดินจงกรม นั่งสมาธิ ทำข้อวัตร (กิจวัตรของพระต่างๆ) ส่วนใหญ่จะเป็นวัดของครูบาอาจารย์ที่เป็นกลุ่มลูกศิษย์หลวงปู่มั่นในสายต่าง ๆ และมักจะอยู่ในภาคอีสาน อีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นกลุ่มใหญ่ ๆ คือวัดป่าในสายของวัดหนองป่าพง (หลวงปู่ชา สุภัทโท) ซึ่งมีสาขาจำนวนมากพอสมควร ทั้งในไทยและในต่างประเทศ แม้จะมีข้อวัตรหลาย ๆ อย่างที่คล้ายกับวัดในแนวทางของวัดศิษย์หลวงปู่มั่น แต่ก็จะมีข้อวัตรหลาย ๆ อย่างที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง เน้นให้พระทำข้อวัตร เน้นวินัย พระอาจจะมีช่วยเรื่อยการก่อสร้าง หรือทำงานอื่นๆ มากกว่ากลุ่มแรก (สามารถเข้าใจได้ เพราะพระจากวัดหนองป่าพงจะมีทักษะในเรื่องการบริหารจัดการวัดเป็นอย่างดี พระอาวุโสจะสามารถออกไปเป็นเจ้าอาวาสหรือสร้างวัดสาขาใหม่ได้ง่าย เพราะได้รับการเทรนมาอย่างรอบด้าน)
ในส่วนตัวข้าพเจ้ามีความพึงพอใจกับทั้งสองรูปแบบ (จากการหาข้อมูล การอ่าน) แต่ก็ไม่ได้มีประสบการณ์ตรงในการเข้าไปสัมผัสกับวัดเหล่านั้น ได้ปรึกษากับพระต่างชาติในสายของหนองป่าพง ท่านก็ได้แนะนำวัดสาขาหนองป่าพง ที่มีครูบาอาจารย์ดี และอยู่ไม่ไกลกรุงเทพฯ นัก คือ วัดป่าอัมพวัน จ.ชลบุรี วัดบุญญาวาส จ.ชลบุรี วัดมาบจันทร์ จ.ระยอง ซึ่งเหมาะกับการบวชในระยะเวลาสั้น ๆ ซึ่งข้าพเจ้าก็เห็นดีด้วย เพราะรู้สึกว่าถ้าเลือกไปวัดในภาคอีสานก็อาจจะไกลบ้านเกินไป แม่เดินทางไปเยี่ยมลำบาก และอาจจะต้องปรับตัวมากกว่า
หลังจากนั้น ข้าพเจ้าก็ตั้งเป้าหมายว่าจะต้องลองไปสำรวจวัดเหล่านี้ดู ว่าที่ไหนน่าจะเหมาะกับเรา แม้ว่าจะเป็นการบวชแค่ระยะเวลาสั้น ๆ แต่ข้าพเจ้าก็มีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ว่าจะต้องไปอยู่ในสถานที่ ที่ทำให้เราสามารถปฏิบัติธรรมได้อย่างเต็มที่มากที่สุด เพราะอนาคตจะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ อาจจะไม่ได้กลับมาบวชอีกแล้วก็ได้ จึงต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง
ศึกษาครูบาอาจารย์
โชคดีที่ยุคนี้สื่อต่างๆ มีพร้อม ทั้งหนังสือ CD MP3 เอกสารทางออนไลน์ จึงสามารถศึกษาฟังการเทศนาสั่งสอนของครูบาอาจารย์ได้ง่าย แนวทางหนึ่งในการดูว่าวัดนั้นถูกจริตกับเราหรือไม่ ก็ต้องลองฟังเทศน์ของครูบาอาจารย์ในวัดที่เราจะเข้าไปศึกษาดู หากเราถูกจริตหรือไม่ถูกจริตกับการสอนของท่านใด ก็จะเป็นการช่วยในเรื่องการตัดสินใจเลือกวัดได้ง่ายขึ้น
ระยะเวลาที่เป็นผ้าขาว?
โดยทั่วไปหากเป็นวัดสายปฏิบัติ จะต้องมาเป็นผ้าขาวที่วัดก่อนในช่วงหนึ่ง อาจจะเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน ขึ้นกับวัดและข้อตกลงของสำนัก อาจจะเป็นกรณีที่แตกต่างกันไป ระหว่างผู้ที่ต้องการบวชชั่วคราว 1 พรรษา หรือผู้ที่ต้องการบวชแบบไม่มีกำหนด โดยทั่วไปผู้ที่ต้องการบวชแบบไม่มีกำหนดจะต้องมาอยู่เป็นผ้าขาวนานกว่า หรือบางวัดที่เคร่ง ๆ รับพระน้อย ก็อาจจะไม่รับผู้ที่จะมาบวชชั่วคราว
วัดในสาขาของหนองป่าพง จะมีระยะเวลาในการเป็นผ้าขาวที่ชัดเจน โดยเฉพาะชาวต่างชาติ จะต้องผ่านการเป็นผ้าขาวและการเป็นเณร ในช่วงระยะเวลาที่นานกว่าคนไทย เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าสามารถเข้ามาบวชเป็นพระอยู่ได้จริงๆ หากเป็นวัดสาขาในต่างประเทศ ก็ต้องเป็นผ้าขาวและเณร อย่างละ 1 ปี ก่อนจะได้รับอนุญาตให้บวชเป็นพระได้
ในส่วนของวัดบุญญาวาส ทำได้สองทางสำหรับผู้บวชชั่วคราว อย่างแรกคือมาเป็นผ้าขาวประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนที่พระจะพาไปบวชให้ หรืออาจจะไปบวชจากวัดข้างนอกแล้วย้ายเข้ามาอยู่ในวัดเลยก็ได้ ซึ่งเป็นแนวทางที่ข้าพเจ้าเลือก ทั้งสองแบบนี้ก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน
วัดป่าในประเทศไทย
วัดป่าในประเทศไทย จะแบ่งเป็นกลุ่มหลัก ๆ ได้ 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มวัดป่าที่สืบทอดมาจากแบบแผนของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต โดยมากนักเป็นวัดในภาคอีสาน เช่นวัดป่าบ้านตาด ของหลวงตามหาบัวฯ วัดดอยธรรมเจดีย์ (หลวงปู่แบน) วัดป่าด่านวิเวก (หลวงปู่ทุย) วัดภูสังโฆ (หลวงพ่อวันชัย) ฯลฯ ซึ่งจะเป็นวัดที่ค่อนข้างเคร่งครัด ไม่เน้นการก่อสร้าง เน้นการเดินจงกรม นั่งสมาธิ ทำข้อวัตร (กิจวัตรของพระต่างๆ) ส่วนใหญ่จะเป็นวัดของครูบาอาจารย์ที่เป็นกลุ่มลูกศิษย์หลวงปู่มั่นในสายต่าง ๆ และมักจะอยู่ในภาคอีสาน อีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นกลุ่มใหญ่ ๆ คือวัดป่าในสายของวัดหนองป่าพง (หลวงปู่ชา สุภัทโท) ซึ่งมีสาขาจำนวนมากพอสมควร ทั้งในไทยและในต่างประเทศ แม้จะมีข้อวัตรหลาย ๆ อย่างที่คล้ายกับวัดในแนวทางของวัดศิษย์หลวงปู่มั่น แต่ก็จะมีข้อวัตรหลาย ๆ อย่างที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง เน้นให้พระทำข้อวัตร เน้นวินัย พระอาจจะมีช่วยเรื่อยการก่อสร้าง หรือทำงานอื่นๆ มากกว่ากลุ่มแรก (สามารถเข้าใจได้ เพราะพระจากวัดหนองป่าพงจะมีทักษะในเรื่องการบริหารจัดการวัดเป็นอย่างดี พระอาวุโสจะสามารถออกไปเป็นเจ้าอาวาสหรือสร้างวัดสาขาใหม่ได้ง่าย เพราะได้รับการเทรนมาอย่างรอบด้าน)
ในส่วนตัวข้าพเจ้ามีความพึงพอใจกับทั้งสองรูปแบบ (จากการหาข้อมูล การอ่าน) แต่ก็ไม่ได้มีประสบการณ์ตรงในการเข้าไปสัมผัสกับวัดเหล่านั้น ได้ปรึกษากับพระต่างชาติในสายของหนองป่าพง ท่านก็ได้แนะนำวัดสาขาหนองป่าพง ที่มีครูบาอาจารย์ดี และอยู่ไม่ไกลกรุงเทพฯ นัก คือ วัดป่าอัมพวัน จ.ชลบุรี วัดบุญญาวาส จ.ชลบุรี วัดมาบจันทร์ จ.ระยอง ซึ่งเหมาะกับการบวชในระยะเวลาสั้น ๆ ซึ่งข้าพเจ้าก็เห็นดีด้วย เพราะรู้สึกว่าถ้าเลือกไปวัดในภาคอีสานก็อาจจะไกลบ้านเกินไป แม่เดินทางไปเยี่ยมลำบาก และอาจจะต้องปรับตัวมากกว่า
หลังจากนั้น ข้าพเจ้าก็ตั้งเป้าหมายว่าจะต้องลองไปสำรวจวัดเหล่านี้ดู ว่าที่ไหนน่าจะเหมาะกับเรา แม้ว่าจะเป็นการบวชแค่ระยะเวลาสั้น ๆ แต่ข้าพเจ้าก็มีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ว่าจะต้องไปอยู่ในสถานที่ ที่ทำให้เราสามารถปฏิบัติธรรมได้อย่างเต็มที่มากที่สุด เพราะอนาคตจะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ อาจจะไม่ได้กลับมาบวชอีกแล้วก็ได้ จึงต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง
ศึกษาครูบาอาจารย์
โชคดีที่ยุคนี้สื่อต่างๆ มีพร้อม ทั้งหนังสือ CD MP3 เอกสารทางออนไลน์ จึงสามารถศึกษาฟังการเทศนาสั่งสอนของครูบาอาจารย์ได้ง่าย แนวทางหนึ่งในการดูว่าวัดนั้นถูกจริตกับเราหรือไม่ ก็ต้องลองฟังเทศน์ของครูบาอาจารย์ในวัดที่เราจะเข้าไปศึกษาดู หากเราถูกจริตหรือไม่ถูกจริตกับการสอนของท่านใด ก็จะเป็นการช่วยในเรื่องการตัดสินใจเลือกวัดได้ง่ายขึ้น
ระยะเวลาที่เป็นผ้าขาว?
โดยทั่วไปหากเป็นวัดสายปฏิบัติ จะต้องมาเป็นผ้าขาวที่วัดก่อนในช่วงหนึ่ง อาจจะเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน ขึ้นกับวัดและข้อตกลงของสำนัก อาจจะเป็นกรณีที่แตกต่างกันไป ระหว่างผู้ที่ต้องการบวชชั่วคราว 1 พรรษา หรือผู้ที่ต้องการบวชแบบไม่มีกำหนด โดยทั่วไปผู้ที่ต้องการบวชแบบไม่มีกำหนดจะต้องมาอยู่เป็นผ้าขาวนานกว่า หรือบางวัดที่เคร่ง ๆ รับพระน้อย ก็อาจจะไม่รับผู้ที่จะมาบวชชั่วคราว
วัดในสาขาของหนองป่าพง จะมีระยะเวลาในการเป็นผ้าขาวที่ชัดเจน โดยเฉพาะชาวต่างชาติ จะต้องผ่านการเป็นผ้าขาวและการเป็นเณร ในช่วงระยะเวลาที่นานกว่าคนไทย เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าสามารถเข้ามาบวชเป็นพระอยู่ได้จริงๆ หากเป็นวัดสาขาในต่างประเทศ ก็ต้องเป็นผ้าขาวและเณร อย่างละ 1 ปี ก่อนจะได้รับอนุญาตให้บวชเป็นพระได้
ในส่วนของวัดบุญญาวาส ทำได้สองทางสำหรับผู้บวชชั่วคราว อย่างแรกคือมาเป็นผ้าขาวประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนที่พระจะพาไปบวชให้ หรืออาจจะไปบวชจากวัดข้างนอกแล้วย้ายเข้ามาอยู่ในวัดเลยก็ได้ ซึ่งเป็นแนวทางที่ข้าพเจ้าเลือก ทั้งสองแบบนี้ก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น